สวัสดีครับ POP จากบริษัท Classmethod (Thailand) ครับ
การตั้งค่า Environment ทุกครั้งใน Elastic Beanstalk อาจทำให้เสียเวลาในการเตรียม Environment แต่เราสามารถ Copy การตั้งค่า Environment ใน Elastic Beanstalk และเริ่มต้นระบบจาก Save Configuration เพื่อร่นเวลาในการเตรียม Environment ได้ครับ
สิ่งที่ต้องมี
- สร้าง Application และ Environment ใน Elastic Beanstalk แล้ว
- Deploy Project ใน Environment แล้ว
กรณีที่เป็น Laravel แนะนำให้สร้าง Environment ตามบทความนี้
ตัวอย่างครั้งนี้สมมติว่าผมสร้างสภาพแวดล้อมโดยใช้ชื่อดังนี้
Application:tinnakorn
Environment:tinnakorn-base
Copy การตั้งค่า Environment
เปิด Environment ใน Elastic Beanstalk ที่กำลังทำงานอยู่ แล้วบันทึกข้อมูลการตั้งค่าสภาพแวดล้อมใน "Saved configurations" โดยคลิก Actions
เลือก Save configuration
แล้วตั้งค่าหน้า Save Configuration
・Configuration name: tinnakorn-base
(ชื่ออะไรก็ได้)
・Description: (ไม่บังคับ)
・คลิก Save
เริ่มต้นระบบจาก Save Configuration
เมื่อ Save เสร็จแล้วจะแสดงหน้าจอที่หน้าฟังก์ชัน Saved configuration แบบนี้ จากนั้นตรวจสอบ Configuration name ครั้งนี้คือ tinnakorn-base
แล้วติ๊ก ✅
และคลิกปุ่ม Launch environment
จากนี้ไปในส่วนที่เหลือจะเหมือนกับวิธีการสร้าง Environment ตามปกติ แต่ข้อมูลการตั้งค่าจะถูกใส่ตาม Configuration name ที่เราเลือกไว้ให้ทั้งหมด ซึ่งเราสามารถตรวจสอบและเปลี่ยนแปลงข้อมูลการตั้งค่าได้ในระหว่างตั้งค่าหรือหลังจากสร้างเสร็จแล้วได้ครับ
วิธีการตั้งค่าหลังจากนี้ให้ดูที่ลิงก์นี้ครับ
- สร้าง Environment ใน Elastic Beanstalk (กรณีของ Laravel)
สรุป
การสร้าง Environment จาก Save Configuration จะช่วยร่นเวลาการเตรียมสภาพแวดล้อมเพื่อให้เริ่มต้นระบบได้อย่างรวดเร็วโดยที่เราแทบไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลยครับ
ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านได้นะครับ
POP (Tinnakorn Maneewong) จากบริษัท Classmethod (Thailand) ครับ !