
Session Note: ผนึกกำลัง Data และ AI ด้วย Amazon SageMaker รุ่นใหม่ จากงาน AWS Summit Bangkok 2025
สวัสดีครับ เพื่อน ๆ เรามาต่อกับบทความสาระดี ๆ จากงาน AWS Summit Bangkok 2025 กันครับ โดยหัวข้อนี้จะเป็นเรื่องของ "Unify data and AI with the next generation of Amazon SageMaker" ซึ่งเนื้อหานี้ได้รับการบรรยายจาก Speaker สองท่านตามนี้
- คุณ Chatcharoen Chivakanit, Senior Solutions Architect, AWS
- Dr. Taweesak Emsawas, Expert Data Scientist, Gosoft (Thailand) Company Limited
ที่สำคัญเลยคือ Session นี้มีการเล่าเนื้อหาที่เข้าใจง่ายครับ เพราะมีการเรียง Agenda ไว้ให้แล้วด้วยตามนี้ครับ
- Why the next generation of Amazon SageMaker?
- How the next generation of Amazon SageMaker empowers organizations and builders
- Amazon SageMaker Unified Studio key concepts and demo
- Improving item forecast accuracy with no-code machine learning
เอาล่ะ เราไปเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
1. Why the next generation of Amazon SageMaker?
ช่วงแรกนี้ คุณ Chatcharoen Chivakanit, Senior Solutions Architect, AWS ได้นำเสนอถึงความเข้าใจขององค์กรต่าง ๆ เกี่ยวกับ AI และข้อมูล ซึ่งปัจจุบันองค์กรส่วนใหญ่เข้าใจดีว่า analytics และ AI ที่ปรับแต่งตามธุรกิจของพวกเขาสามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีข้อมูล (data) ขององค์กรเป็นเชื้อเพลิงสำคัญ
แต่ในขณะเดียวกัน องค์กรก็กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ:
ความท้าทายด้านเทคโนโลยี:
- AI และ machine learning ต้องการความเร็วและประสิทธิภาพสูง
- สภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ความท้าทายด้านข้อมูล:
- กระบวนการและงานที่เปลี่ยนแปลงต้องการการจัดเก็บข้อมูล APIs และเครื่องมือที่หลากหลาย
- Data silos ที่ไม่เชื่อมต่อกัน
- ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ และการกำกับดูแลข้อมูล
คุณ Chatcharoen ยังได้อธิบายว่าองค์กรส่วนใหญ่ชื่นชอบชุดบริการที่ครอบคลุมและสร้างมาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ พร้อมทั้งต้องการการปรับให้เหมาะสมทั้งด้านประสิทธิภาพและต้นทุน นี่คือเหตุผลว่าทำไม AWS จึงพัฒนา SageMaker รุ่นใหม่ขึ้นมา (ต้องบอกเลยว่าเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างตรงจุดเลยทีเดียวครับ)
2. How the next generation of Amazon SageMaker empowers organizations and builders
ในส่วนที่สอง คุณ Chatcharoen ได้อธิบายว่า Amazon SageMaker รุ่นใหม่ช่วยเสริมพลังให้องค์กรและนักพัฒนาได้อย่างไร โดยเน้นที่ 4 องค์ประกอบหลัก:
- AI: พัฒนาและขยาย AI use cases ด้วยเครื่องมือที่หลากหลายที่สุด
- Unified Studio: ทำงานร่วมกันและสร้างได้เร็วขึ้นด้วยสภาพแวดล้อมการพัฒนาข้อมูลและ AI แบบครบวงจร
- Lakehouse: ลด data silos ด้วย open lakehouse เพื่อรวมข้อมูลทั้งหมด
- Catalog: ตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยขององค์กรด้วยการกำกับดูแลข้อมูลและ AI แบบในตัว
คุณ Chatcharoen ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษเกี่ยวกับ Amazon SageMaker Unified Studio ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมการพัฒนาข้อมูลและ AI แบบครบวงจรเพื่อการทำงานร่วมกันและสร้างได้เร็วขึ้น โดยรวมบริการต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เช่น:
- SQL Analytics (Amazon Redshift)
- Data Processing (Amazon EMR, AWS Glue)
- Model Development (Amazon SageMaker)
- Gen AI App Development (Amazon Bedrock)
- Search Intelligence (Amazon CloudSearch)
- Streaming Analytics (Amazon OpenSearch)
- Business Analytics
นอกจากนี้ยังมี Amazon SageMaker Lakehouse ที่ช่วยลดความซับซ้อนของ analytics และ AI ด้วย data lakehouse ที่เป็นหนึ่งเดียว เปิดกว้าง และปลอดภัย มีการเข้าถึงข้อมูลแบบเปิด (Open Data Access) ผ่าน Iceberg REST Catalog API และรองรับการทำงานแบบ Zero-ETL (แหม่ นี่แหละที่เรียกว่าการบูรณาการที่ครบวงจรจริง ๆ)
3. Amazon SageMaker Unified Studio key concepts and demo
ในส่วนที่สาม Dr. Taweesak Emsawas, Expert Data Scientist, Gosoft (Thailand) Company Limited ได้นำเสนอกรณีศึกษาจาก Gosoft ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่พัฒนาระบบ IT สำหรับ 7-Eleven ในประเทศไทย
Dr. Taweesak ได้แนะนำให้รู้จักกับ CPALL (บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่บริหารร้าน 7-Eleven ในประเทศไทย โดยมีสถิติที่น่าทึ่ง:
- มีร้าน 7-Eleven มากกว่า 15,000 สาขาทั่วประเทศ
- มีรายการสินค้า (SKUs) มากกว่า 200,000 รายการ
- มีลูกค้าใช้บริการ 13 ล้านคนต่อวัน
- มีธุรกรรมการซื้อขาย 14 ล้านรายการต่อวัน
- 15% ของคำสั่งซื้อมาจากช่องทางออนไลน์
Dr. Taweesak ได้อธิบายถึงบริการหลักของระบบ IT ที่พัฒนาโดย Gosoft และแนะนำบริการ 7-Eleven Delivery ซึ่งมีแนวคิด "Retail convenience store in your palms, delivering to your doorstep" (นี่เป็นตัวเลขที่น่าสนใจมาก ๆ เลยครับ)
จากนั้น Dr. Taweesak ได้สาธิตการใช้งาน Amazon SageMaker Unified Studio ในการพัฒนาโซลูชันสำหรับ 7-Eleven โดยเน้นที่ความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่างทีมต่าง ๆ และการเชื่อมต่อข้อมูลจากหลายแหล่งเข้าด้วยกัน
4. Improving item forecast accuracy with no-code machine learning
ในส่วนสุดท้าย Dr. Taweesak ได้เล่าถึงความท้าทายในการจัดการสินค้าคงคลังของ 7-Eleven:
-
ปัญหา Stock day (สินค้าคงคลังมากเกินไป):
- ส่งผลให้กระแสเงินสดไม่คล่องตัว
- สูญเสียพื้นที่จัดเก็บในร้าน
- เสี่ยงต่อการมีสินค้าหมดอายุ
-
ปัญหา Stock out (สินค้าขาดสต็อก):
- สูญเสียโอกาสในการขาย
- ลูกค้าไม่พึงพอใจ
- ส่งผลเสียต่อชื่อเสียงแบรนด์
-
กระบวนการเติมสินค้าแบบเดิมใช้เวลามาก:
- "Manual Work" ใช้เวลา 120 นาทีต่อวันต่อร้าน
- คิดเป็น 20,000 ชั่วโมงต่อวันทั่วประเทศ
- หรือ 6% ของเวลาปฏิบัติงานทั้งหมด
Dr. Taweesak ได้นำเสนอโซลูชัน AI Tanpin Kanri (AITK) ซึ่งเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์สำหรับการเติมสินค้าเชิงรุก โดยใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ 6TB จากหลายแหล่ง เช่น ข้อมูลการขาย ข้อมูลสินค้า ข้อมูลโปรโมชัน และข้อมูลร้านค้า (ไม่แปลกใจเลยทำไมเขาใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ขนาดนี้)
ระบบ AITK ทำงานผ่าน 3 ขั้นตอนหลัก:
- Data collection (การเก็บรวบรวมข้อมูล)
- AI/ML pipelines (การเตรียมข้อมูล สร้างและฝึกฝนโมเดล และการพยากรณ์อุปสงค์)
- Replenishment model (โมเดลการเติมสินค้า)
Dr. Taweesak ได้อธิบายว่า Gosoft ใช้เทคโนโลยี AWS หลายอย่างในระบบ AITK:
- AWS Step Functions: จัดการ training และ inference pipelines
- AWS Glue Jobs: ทำ data transformation
- Amazon S3: เก็บข้อมูลต่าง ๆ
- Amazon SageMaker AutoML: ทำ data pre-processing, feature engineering, และ ML model selection
ที่สำคัญ Dr. Taweesak ได้เน้นย้ำถึงการใช้ Amazon SageMaker Canvas ซึ่งเป็นเครื่องมือ no-code machine learning ที่ช่วยให้ทีมสามารถสร้างโมเดลการพยากรณ์ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด
ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ระบบ AITK นั้นน่าประทับใจมาก ๆ:
- ลดเวลาในกิจกรรมการเติมสินค้าลง 95%
- ลด Stock day ลง 5%
- ลด Stock out ลง 40%
รอติดตามอ่านนะครับ!
เซสชัน "Unify data and AI with the next generation of Amazon SageMaker" นี้ได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ AWS ในการพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จาก AI และข้อมูลได้อย่างเต็มที่ ผ่าน Amazon SageMaker รุ่นใหม่ที่รวมทุกอย่างเข้าด้วยกันในแพลตฟอร์มเดียว
กรณีศึกษาจาก Gosoft และ 7-Eleven ประเทศไทยเป็นตัวอย่างที่ดีของการนำ Amazon SageMaker ไปใช้งานจริงและได้ผลลัพธ์ที่จับต้องได้ โดยเฉพาะการใช้ SageMaker Canvas ซึ่งเป็นเครื่องมือ no-code ที่ช่วยให้ทีมที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้าน data science สามารถสร้างโมเดล ML ได้
สำหรับองค์กรที่กำลังมองหาวิธีการปรับปรุงการใช้ข้อมูลและ AI ในธุรกิจ Amazon SageMaker รุ่นใหม่นี้น่าจะเป็นคำตอบที่น่าสนใจมาก และหากคุณต้องการความช่วยเหลือในการนำ AWS services ไปใช้ในองค์กรของคุณ ทีม Classmethod Thailand พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนคุณอย่างเต็มที่ครับ!
สำหรับบทความถัดไป ผมจะมาเล่าเรื่องอะไร ฝากติดตามกันด้วยนะครับ สำหรับวันนี้พระเจ้าอวยพรครับ!