โอ้โห มันจะตื่นตาตื่นใจอะไรขนาดนี้!!!
สวัสดีครับ เบนจ์ครับ ในบทความนี้ต้องบอกเลยว่ารีบเขียนมาก ๆ ครับ (แต่ก็เรียบเรียงอย่างดีน้า) เพราะอยากให้เรื่องราวที่เล่าต่อจากนี้ออกมาเสริฟเพื่อน ๆ พร้อมกับความตื่นตาตื่นใจที่ยังคุกรุ่นอยู่ภายในความทรงจำของผม ถ้าเปรียบเทียบกับอาหารก็ต้องเป็นประโยคที่ว่า “อยากให้กินตอนที่ยังร้อน ๆ อยู่”
โดยเรื่องราวที่จะมาแบ่งปันในวันนี้ คือ AWS Cloud Day Thailand 2023 ซึ่งผมและทีมงานท่านอื่น ๆ ของ Classmethod ได้มีโอกาสไปร่วมงานเมื่อวันที่ 8 เดือน 8 (2023) ที่ผ่านมานี่เองครับ แม้จะไม่ได้ Cf โปร 8.8 ก็ไม่เป็นไร แต่เรื่องราวต่อจากนี้ไปมันว้าวกว่ามาก!
ซึ่งผมขอกล่าวภาพรวมของงานแบบคร่าว ๆ ก่อนครับว่า “เริ่มต้นตื่นตัวกันยาว ๆ ด้วยการอัปเดตข่าวสารของ AWS ในช่วงเช้า พักเที่ยงด้วยอาหารเลิศรสคาวหวานแบบบุฟเฟต์ และร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงบ่ายพร้อมรับของแถมและรางวัลมากมายให้อิ่มอกอิ่มใจก่อนกลับบ้าน” (ผมเองก็ได้ของมาเยอะครับ ไว้จะเล่าให้ฟังช่วงท้ายนะ^-^)
เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลยครับ
*รูปเยอะหน่อยแต่อร่อยแน่ครับ^-^
การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ใน AWS Cloud Day Thailand
หลังจากห่างหายไปนานเพราะโควิด-19 ในที่สุด AWS เขาก็จัดงาน AWS Cloud Day Thailand อีกครั้งหนึ่งครับ โดยครั้งนี้เขาจัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ประเทศไทยบ้านเรานี่เองครับ งานนี้จัดวันที่ 8 สิงหาคม 2023 (อังคาร) ตั้งเวลา 08.00 - 17.30
ในตอนแรก ผมเองก็อยากจะเล่าเรื่องราวที่ฟังดูสบาย ๆ อยู่หรอกครับ แต่เมื่อดูจากภาพตอนที่พวกเรา Classmethod ถึงงานได้สักพัก ถึงกับต้องพับคำว่า ‘สบาย ๆ’ ไว้ในกระเป๋ากันเลยล่ะ เพราะเราต้องเผชิญกับมหามวลชนคนสนใจ AWS อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง! มีคนมาร่วมงานเยอะมากครับ ทั้งจากบริษัทที่จัดบูธซึ่งมีประมาณ 10-20 บริษัท และเหล่าผู้เข้าร่วมจากทั่วทุกสารทิศ โดย AWS ได้รายงานว่ามีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมเกือบ 5,000 คน!
ในระหว่างที่รอ Hall เปิดเพื่อเข้าฟังการบรรยายอย่างเป็นทางการของ AWS ผมและทีมงานก็ได้เดินทั่วงานเลยครับ แวะบูธนั้นที ฟังบูธนี้หน่อย อาทิ บูธนี้เป็นบูธ Skills Zone ของ AWS โดยตรงเลยครับ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจพัฒนาความรู้เพิ่มพูนความเข้าใจในตัวของ AWS Cloud รวมถึงแนวทางสอบ AWS Certifications ด้วยนะ โดยสิ่งที่ผมชอบที่สุดเลยคือการได้เจอกับพี่คนนี้ครับ! (รูปขวามือ)
พี่เขาชื่อ ชโยทัย ประเสริฐศรี (Chayothai Prasertsri) เป็น AWS Senior Technical Trainer ครับซึ่งถ้าใครลงเรียน AWS Skill Builder จะคุ้นเคยกับพี่เขาดี เพราะพี่ชโยทัยเขาเป็นวิทยากรในบทเรียนต่าง ๆ ของ AWS ฉบับภาษาไทย! ซึ่งช่วยเพิ่มอรรถรสและความเข้าใจในการเรียนของผมได้อีกขั้นหนึ่งเลยล่ะครับ
เพื่อน ๆ คนไหนที่อยากพัฒนาทักษะสำหรับ AWS Cloud สามารถเรียนออนไลน์ได้ที่ AWS Skill Builder โดยคลิกลิ้งด้านล่างนี้ได้เลยครับ (เขามีทั้งบทเรียนฟรี และเสียเงินนะครับ)
The Future is Now อนาคตของประเทศไทยพร้อมแล้ว ณ วันนี้กับ AWS
พอถึงเวลา 09:30 ประตู Hall 3 เปิดออก เสียงกระดิ่งแจ้งเตือนดัง กุ๊งกิ๊ง! กุ๊งกิ๊ง! (กุ๊งกิ๊งจริงครับ เพราะออแกไนเซอร์เขาเดินสั่นกระดิ่งทั่วงานเลย) ผู้ร่วมงานทุกคนต่าง ๆ ทยอยเข้าไปด้านใน จับจองที่นั่ง เพื่อรอฟังการบรรยายอัปเดตข้อมูลของ AWS ต้องขอบอกเลยครับว่า Hall นี้จุคนได้เยอะมากและหนาวมากจริง ๆ
จนเวลาผ่านไปไม่เกิน 10 นาที แสงไฟใน Hall ดับลง ทุกสายตาถูกดึงความสนใจไปที่จอ LED ซึ่งยังส่องสว่างอยู่ตรงเวที และแล้วเสียงดนตรีไทยก็บรรเลงขึ้น AWS ต้อนรับขับสู้แขกเหรื่ออย่างร้อนแรงด้วยการแสดงศิลปะไทยประยุกต์สุดตื่นตาตื่นใจ และเมื่อการแสดงจบลง ก็เข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญและผมต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นโหมดตั้งใจฟังในทันใด!
คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ AWS Country Manager ประจำประเทศไทยก้าวขึ้นมาบนเวทีพร้อมกล่าวเปิดด้วยการย้อนถึงต้นกำเนิดของ AWS ในปี 2006 จนถึงปัจจุบันที่คลาวด์เริ่มมีบทบาทสำคัญในภาคธุรกิจ รวมถึงวิสัยทัศน์ของ AWS ที่ต้องการเผยแพร่องค์ความรู้ด้าน IT ให้คนไทยเข้าถึงง่าย เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตและศักยภาพของประเทศไทยให้แข็งแกร่งไม่แพ้ใครในเวทีโลก โดยคุณวัตสันได้กล่าวปิดอย่างน่าจดจำว่า
“The Future is Now อนาคตของประเทศไทยพร้อมแล้ว ณ วันนี้กับ AWS คลาวด์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย”
เสียงปรบดังขึ้น คุณวัตสันเดินลงไปพร้อมส่งไม้ต่อไปให้บุรุษตาน้ำข้าวร่างสูงใหญ่ ใช่ครับ ผู้ขึ้นมาเป็นคนที่ 2 คือ AWS Managing Director ประจำภูมิภาคอาเซียน คุณคอเนอร์ แม็คนามารา (Conor Mcnamara)
คุณคอเนอร์บรรยายในหัวข้อ AWS in ASEAN and Thailand: Enabling organizations to innovate with the cloud เป็นเนื้อหาของวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจและเล่าถึงพันธกิจที่ AWS ต้องการแบ่งปันองค์ความรู้ให้กับภูมิภาคอาเซียนนี้ รวมถึงเป้าหมายในอนาคตขององค์กรด้วยเช่นกันครับ
ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถอ่านรายละเอียดของหัวข้อนี้ได้ที่ลิ้งก์นี้ครับ
https://dev.classmethod.jp/articles/aws-cloud-day-thailand-2023-what-keynote-does-aws-have-to-say/
นอกจากนี้คุณคอนอร์ยังเชิญผู้บรรยายรับเชิญมาร่วมแบ่งปันถึงการทำงานร่วมกับ AWS ซึ่งผู้ที่ให้เกียรติมาบรรยายมีด้วยกัน 3 ท่านครับ
- คุณอภิรัตน์ หวานชะเอม Chief Digital Officer จาก SCG
- คุณสุธัช เรืองสุทธิภาพ CEO และผู้ก่อตั้ง บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด
- คุณ Aung Kyaw Moe CEO และผู้ก่อตั้ง 2C2P
โดยแต่ละท่านก็ได้บอกเล่าเรื่องราวที่ได้ทำงานร่วมกับ AWS และความสามารถของ AWS ช่วยเพิ่มศักยภาพพัฒนาธุรกิจของแต่ละท่านในด้านต่าง ๆ ซึ่งในรายละเอียดเชิงลึกของแต่ละท่านนี้ ผมจะขออนุญาตแบ่งปันให้ฟังในบล็อกถัด ๆ ไปนะครับ
(จะจัดให้แบบจุใจเลยครับ^-^)
Tea Break
หลังจากจบช่วงนี้ เราก็พัก Tea Break กัน 20 นาทีก่อนเข้าไปฟังช่วงต่อไปครับ อ้อ! ถ้าใครอยากกินกาแฟ ไม่ต้องเดินออกไปซื้อจากข้างนอกนะครับ เพราะ AWS เขายกเครื่อชงกาแฟงมาไว้ในงานให้เราดื่มแบบฟรี ๆ ไม่คิดเงินเลย (เปย์เบอร์แรงมาก!)
*ภาพที่แนบมาอาจจะเบลอไปหน่อยนะครับ แต่เรามีแค่ภาพนี้ภาพเดียวเอง แง^-^’
AWS Wherever You Need it
หลังจากนั้นเราก็กลับเข้ามาที่ Hall 3 เหมือนเดิมครับ แต่หัวข้อบรรยายในครั้งนี้คือ 'AWS Wherever You Need it' โดยในช่วงนี้เป็นการอัปเดตข้อมูลข่าวสาร เรื่องถึงเครื่องมือและฟีเจอร์ใหม่ ๆ จาก AWS ครับ ซึ่งแน่นอน AWS เขามีมาให้เราได้ว้าวกันตลอดเลยล่ะครับ แต่สิ่งที่ว้าวสำหรับผมเป็นพิเศษเลยคือ Generative AI ถึงผมจะยังไม่เข้าใจเชิงลึกเท่าไร แต่มันตื่นตาตื่นใจสำหรับผมมาก เพราะจะมีช่วงหนึ่งที่ผู้บรรยายบอกว่า
หากคุณอยากจะออกแบบกระป๋องน้ำส้ม แต่คุณไม่เก่งเรื่องการออกแบบเอาซะเลย ลองใช้ Generative AI ดูสิ แล้วคุณจะอึ้งกับผลลัพธ์ไปเลยล่ะ… หรือถ้าคุณอยู่แผนกการตลาดและอยากทำภาพโฆษณาน้ำส้ม Generative AI ก็มี Lay Out ให้คุณเลือกได้ตามต้องการ
สำหรับคนเรียนจบบริหารที่ไม่ค่อยเก่งเรื่องการออกแบบอย่างผมนี่ พอเจอ Generative AI เข้าไปคือติดใจกับเจ้าสิ่งนี้มาก เพราะมันสามารถออกแบบได้สวยไม่แพ้คนเลยครับ! (อยากลองใช้เหมือนกันนะครับเนี่ย)
ช่วงต่อมาก่อนพักเที่ยงคือ การสัมภาษณ์ที่เกี่ยวกับประโยชน์ของ AWS ที่ช่วยในการทำ Cloud Transformation ครับ ในช่วงนี้ก็มีแขกผู้รับเชิญมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ของบริษัทที่ได้นำ AWS ไปใช้ในองค์กรของตัวเองครับซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบ Cloud Transformation เลยล่ะครับ (แต่แอร์หนาวมาก หนาวจริง ๆ)
Lunch Time
เอาล่ะ เหนื่อยไหมครับ? ถ้าเหนื่อยเรามาพักสายตากันหน่อยดีกว่า กับช่วงมื้อเที่ยง ต้องบอกเลยว่า AWS เขาดูแลผู้เข้าร่วมงานดีมาก อาหารเที่ยงเสริฟแบบบุฟเฟต์ มีทั้งอาหารคาวหวาน สลัด ไทย-ฝรั่งปะปนกันไป ความอร่อยนี่คือ 5 ดาวเลยครับ
Join-as-You-prefer เชิญตามอัธยาศัย
พอถึงช่วงบ่าย ทีม Classmethod ของเราก็แยกย้ายกันไปเข้าร่วมกิจกรรมที่ตนเองสนใจครับ โดยส่วนของผมก็เดินเล่นอยู่บริเวณบูธสักพักครับ แวะบูธนุ้น รับของแถมบูธนี้ เดินไปเดินมาอยู่ดี ๆ “เอ๊ะ! ทำไมคนนี้หน้าคุ้น เอ๊ะ! ทำไมรุ่นน้องมหา’ลัยลงสตอรี่ไอจีเป็นรูปวิวแถว ๆ งานเราเลยนะ?” ใช่ครับ ผมเจอคนรู้จักในงานนี้ ฮ่าๆๆๆ ( พระเจ้าจัดเตรียมจริงๆ )
จากนั้นผมก็เข้าไปร่วมฟังบรรยายใน ‘Industry Innovation Track Cloud Horizons: Navigating the future of industries’ ซึ่งช่วงที่ผมเข้าไปฟังคือเนื้อหาของ ‘Redefining retail customer experience: Bringing AWS Smart Store Solutions to life’ ซึ่งเป็นเรื่องราวของการนำเครื่องมือของ AWS ไปใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นของธุรกิจค้าปลีกเพื่อสร้างประสบการณใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าครับ
สารภาพตามตรงเลยว่า ผมมัวแต่คุยกับคนรู้จัก จนเข้าไปไม่ทันช่วงเริ่มต้น แต่ว่าพอเข้าไปแล้ว ผมต้องบอกกับตัวเองเลยว่า “เบนซ์ อย่างน้อยนายก็คิดถูกที่เข้ามา” เพราะนั่นทำให้ผมได้รับรู้ความจริงว่า แอป 7-ELEVEN Delivery ที่เราหลายคนใช้กันเป็นประจำนั้น มีผู้ดูแลระบบหลังบ้านเป็น AWS ครับ! ใช่ AWS อยู่ใกล้ตัวกว่าที่เราคิดจริง ๆ เกินคาดมาก ๆ แม้แต่คุณมินามิเองก็ยังกล่าวปนประหลาดใจเลยว่า “เอ๊ะ! ไซบัตสึเมืองไทยใช้ AWS กันเยอะอยู่นะเนี่ย” บางที เบื้องหลังแอปพลิเคชั่นบนมือถือของเราอาจจะพัฒนาบน AWS ก็เป็นได้นะครับ
หลังจากจบการบรรยายผมก็ไปนั่งที่มุม Skills Zone อีกเเล้วครับ (อยากเจอพี่ชโยทัยอาจารย์ของผมอีก) ผมนั่งฟังเนื้อหาเกี่ยวกับทำ Demo รวมถึงการสอบเพื่อให้ได้ Certification ต่าง ๆ ของ AWS เพราะผมเองก็ตั้งเป้าหมายไว้ครับว่าอยากจะสอบ AWS Cloud Practitioner Foundational ให้ได้ภายในปีนี้ และผมก็นั่งอยู่ตรงนั้นจนถึงเซคชั่นสุดท้าย 16.30น.เลย
และที่สำคัญเลยคือ พี่อาจารย์ของผมก็ทยอยเอาของที่ระลึกมาแจกไม่หยุดหย่อนเลยครับ ทั้งสติ๊กเกอร์ สมุดจด กาชาปอง ฯ จนกระเป๋าหิ้วที่ได้มาในตอนเช้าหนักไปเลยครับ^-^'
Last Mission ก่อนกลับบ้าน
จนในช่วงสุดท้าย ตอนที่ผมกำลังจะออกจากงานเพื่อกลับบ้าน ก็มีเสียงประกาศขึ้นว่า “ถึงผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน สำหรับท่านที่สะสมแต้มครบแล้ว สามารถนำมาแลกของที่ระลึกที่บริเวณ Hall 3 ก่อน 17.00น.นะคะ”
เอ๊ะ!?...
ผมขออนุญาตเท้าความแบบนี้ก่อนครับว่า ในช่วงลงทะเบียนเข้างาน เราจะได้รับบัตรเข้างานพร้อมกับแบดจ์คล้องคอที่มีหน้าตามรูปด้านล่างครับ ซึ่งด้านหลังเจ้าแบดจ์นี้จะมีช่องให้เราสะสมแต้มครับ โดยเราสามารถรับแต้มจากการไปทำกิจกรรมกับบูธต่าง ๆ จนครบแล้วก็นำแบดจ์ไปแลกรับของรางวัล โดยรางวัลที่ได้คือ เซตทำความสะอาดโน้ตบุ๊คสุดมินิมอลของเรานั่นเอง!
สรุปว่าผมเดินกลับเข้าไปในงานเพื่อสะสมแต้มให้ครบและแลกเจ้าเซตทำความสะอาดนี้มาแล้วค่อยกลับบ้านครับ สู้ตายจริง ๆ สำหรับ Last Mission!
Finally ในท้ายที่สุดนี้
และ (ในที่สุด) นี่คือเรื่องราวการเข้าร่วมงาน AWS Cloud Day Thailand ครั้งแรกของผมครับ ต้องขอบอกเลยว่า มันมีหลากหลายอารมณ์ในเวลาเดียวกัน แต่โดยรวมนั้น งานนี้ได้จุดไฟในการเรียนรู้เรื่องคลาวด์ให้กับผมอย่างมากเลยครับ ต้องขอขอบคุณทาง AWS ที่ส่งอีเมลล์มาเชิญชวน ขอบคุณ Classmethod (Thailand) ที่ให้โอกาสผมได้ไปเข้าร่วมด้วย ช่างเป็นประสบการณ์ที่มีค่าสำหรับชีวิตการทำงานของผมจริง ๆ
สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกท่านจริง ๆ ครับที่อ่านมาถึงตอนจบ ผมขอปิดท้ายบทความนี้ด้วยภาพของที่ระลึกซึ่งผมได้มาจากงาน Cloud Day นะครับ ขอพระเจ้าอวยพรครับ
16
