AWS Summit Bangkok 2025: รากฐานข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์และ AI: จากข้อมูลสู่ผลลัพธ์ในระดับขนาดใหญ่

AWS Summit Bangkok 2025: รากฐานข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์และ AI: จากข้อมูลสู่ผลลัพธ์ในระดับขนาดใหญ่

สวัสดีค่ะผู้อ่าน DevelopersIO ทุกคน เฟินจาก Classmethod Thailand ค่ะ

วันนี้จะมาแชร์ข้อมูลจากเซสชั่นที่ได้เข้าร่วมฟังมาเมื่อวันที่ 29 เมษายนที่งาน AWS Summit Bangkok 2025 ที่ผ่านมาค่า
“_Data foundation for analytics and AI: From data to outcomes at scale” หรือภาษาไทยก็คือ “รากฐานข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์และ AI: จากข้อมูลสู่ผลลัพธ์ในระดับขนาดใหญ่

ในเซสชั่นนี้หลักๆจะพูดถึง basic ของการจัดการดาต้า เราจะบูรณาการเครื่องมือต่างๆอย่างไรให้ดาต้าและ AI ทำงานรวมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนทุกอย่างที่เคยมีค่ะ

Generative AI ที่กำลังเป็นเทรนด์ในตอนนี้ ในการที่องค์กรต่างๆจะนำมาใช้ สิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างแรกคือเรื่องของ Data Foundation ที่สามารถรองรับการใช้งาน Generative AI

ปี 2025 นักวิเคราะห์กล่าวว่าจะเป็นปีของ Data Renaissance ปีแห่งการ Back To Basic ไปจัดการที่ Data Foundation เพื่อที่จะนำ Generative AI มาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ปัจจัยที่ทำให้องค์กรต่างๆยังไม่พร้อมสำหรับ Generative AI

  • ดาต้ากับ AI ที่แยกกันโดยสิ้นเชิง ไม่ทำงานร่วมกัน ทำให้มีความซับซ้อนวลาที่ต้องทำงานรวมกัน
  • Data silos ที่องค์กรเก็บดาต้าแยกกันหลายฟอร์แมตไว้หลายๆที่ เวลาที่จะดึงดาต้ามาทำงานร่วมกันทำได้ยาก
  • Infrastructure ที่ไม่ยืดหยุ่น
  • ไม่มี Tools ที่จะทำ Data Governance

S__105513004

สำหรับ AWS มีความทุ่มเทในการสร้างบริการที่ครบวงจนเพื่อซัพพอร์ทลูกค้าในการแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการต่างๆของลูกค้า อย่าง Storage Database Analytics AI

โดย AWS ได้พัฒนาบริการเพื่อให้ดาต้าและ AI ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อุดช่องโหว่ที่ผู้ใช้งานเคยเจอนั่นก็คือ Amazon Sagemaker เวอร์ชั่นใหม่ เพื่อรวมบริการให้เรื่องของ AI และดาต้าอยู่ใน environment เดียวกัน

S__105513006

Amazon Sagemaker

โดยองค์ประกอบหลักของ Sagemaker มี 3 ส่วน

S__105513009

  1. Unified Studio : พัฒนาเรื่องของดาต้าและ AI โดยรวมบริการ AWS ที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดีมาใช้ร่วมกัน
  2. Data Governance : รวม Governance ที่เกี่ยวข้องไปถึง responsible AI
  3. Lakehouse : ตรงนี้ AWS ใช้เป็น Open Lakehouse ในการรวมดาต้าจากทุกที่เข้ามารวมกันที่เดียว โดยมี Open API เรียกใช้งาน (Apache Iceberge API)

ประโยชน์หลัก 4 อย่างของ Sagemaker เจนใหม่

S__105513010

1. ความเร็วจากดาต้าไปสู่ผลลัพธ์ของ AI

S__105513013

การบูรณาการเครื่องมือต่างๆที่มีอยู่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เร็วขึ้น

2. Open ซึ่งจะเน้นในเรื่องของดาต้า ซึ่ง Sagemager จะรวมเรื่อง Data foundation รวมอยู่ด้วย ซึ่ง Datalake เด่นของ AWS ได่แก่ Amazon S3

S__105513014

ฟีเจอร์ใหม่ของ S3 ได้แก่ S3 Tables ที่เราจะสามารถรัน query ได้เร็วกว่า S3

S__105513012

หรือบางอค์กรที่ใช้ data warehouse ซึ่งทาง AWS ก็มีบริการที่รองรับคือ Amazon Redshift

เมื่อการใช้งานมีมากขึ้น บางองค์กรต้องการใช้ทั้ง Data Lake และ Data Warehouse ทำให้ต้องใช้ tools ต่างมากๆขึ้นหรือจัดการ ETL Pipeline

S__105513017

ในกรณีนี้ Sagemaker ประกอบด้วย Data Lake กับ Warehouse ที่ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี และยังมีในส่วนที่เรียกว่า Zero ETL ทำให้สามารถเรียกดาต้าจากที่อื่นเข้ามาใน data lake ได้โดยตรง ซึ่งทาง AWS มีการพัฒนาร่วมกัน SaaS อย่าง SAP Saleforce Servicenow etc. ซึ่งในอนาคตก็จะมีความร่วมมือกับ SaaS อื่นเรื่อยๆ ณ ปัจจุบันสามารถเชื่อมออกไป Source อื่นได้ผ่าน AWS Glue Connector โดยที่ไม่ต้องสร้าง Pipeline ใหม่

S__105513016

3. Trust

เมื่อมีการดึงด้าต้าจากที่ต่างๆมาใช้ที่เดียวกับ โปรเจคต์ต่างๆอยากจะมาใช้ดาต้าที่อยู่ตรงนี้ ทำให้ต้องมี governance ในการให้สิทธิ์ที่เหมาะสมกับแอปหรือยูสเซอร์ได้เหมาะสม Sagemaker เจนใหม่จึงมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Sagemake Catalog

Screenshot 2025-05-28 154244

โดยมีเบสจากบริการเดิมคือ Data Zone ที่ Build-in เข้าไปใน Unified Studio

ส่วนในการรองรับ Responsible AI มีการใช้ Amazone Bedrock Guardrails เพื่อจัดการข้อมูลที่ไม่เหมาะสม

Screenshot 2025-05-28 154416

4. Scale with confidence

AWS ให้บริการมา 19 ปี มีลูกค้ามากกว่า 2 ล้านราย AWS มีความพยายามที่จะโตพร้อมกับลูกค้าเสมอ และมีความมั่นใจว่า AWS จะสามารถรองรับข้อมูลของลูกค้าที่เพื่มขึ้นได้เสมอ

Screenshot 2025-05-28 161812

สุดท้าย

ข้อมูลที่ได้ฟังในเซสชั่นนี้ไม่ใช่ Road Map แต่เป็น service ที่ให้บริการอยู่ ณ ปัจจุบันแล้ว ท่านไหนสนใจข้อมูลเพิ่มเติม เช็คได้ที่หน้าเว้บด้านล่างเลยค่า

https://aws.amazon.com/sagemaker/

Share this article

facebook logohatena logotwitter logo

© Classmethod, Inc. All rights reserved.