นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลในธุรกิจรีเทลและ CPG จากงาน AWS Summit Bangkok 2024

นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลในธุรกิจรีเทลและ CPG จากงาน AWS Summit Bangkok 2024

เมื่อเทคโนโลยีดิจิตัลผสานกับอุตสาหกรรมรีเทลและ CPG นวัตกรรมและประสบการณ์ใหม่ในการทำธุรกิจจึงได้เกิดขึ้น!
Clock Icon2024.06.19

สวัสดีครับ เบนจามินเองครับ หลังจากที่ผมได้รีวิวภาพรวมของงาน AWS Summit Bangkok 2024 ผ่านบล็อคก่อนหน้าไปแล้ว (อ่านได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้นะครับ) คราวนี้ผมจะพาทุกคนไปลงรายละเอียดเกี่ยวกับ session ต่าง ๆ ที่ผมได้ไปเข้าร่วมกันดีกว่าครับ

Session Guide

สำหรับงาน AWS Summit Bangkok 2024 นี่ต้องบอกว่า AWS เขามาใหญ่และมาเยอะจริง ๆ ครับ เพราะในครั้งนี้เขาจัด Session ทั้งหมดมากกว่า 30 รายการ มีการเชิญ Speaker มามากกว่า 30 ท่าน โดยแบ่งเป็น 4 Track ใหญ่ ตามนี้เลยครับ

  • Track 1: Reimagining Industries with AWS

  • Track 2: Modernise your workload

  • Track 3: The future is now with data and generative AI

  • Track 4: AWS for Developers

Digital Technology Innovation in Retail and CPG

โดย session แรกที่ผมได้เข้าร่วมมีชื่อว่า Digital Technology Innovation in Retail and CPG ถ้าแปลเป็นไทยก็จะได้ประมาณว่า นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลในธุรกิจรีเทลและ CPG โดย session นี้ได้รับเกียรติบรรยายจาก คุณ จัสติน โฮนามาน, Justin Honaman, Worldwide Retail & Consumer Goods Head of Go-to-Market จาก AWS (ขอบอกลเลยครับว่าเขาเป็นคนที่คุยสนุกอยู่นะครับ^-^)

CPG

แต่ก่อนที่จะไปเข้าเนื้อหาของ session นี้ ผมในฐานะของเด็กที่เรียนจบบริหารธุรกิจมา มันอดไม่ได้ครับที่จะอธิบายให้ฟังว่า CPG นั้นคืออะไร (เผื่อเพื่อน ๆ บางคนอาจจะยังไม่ทราบเนาะ)

CPG ย่อมาจาก Consumer Packaged Goods ซึ่งหมายถึง “สินค้าอุปโภคบริโภค” เป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดที่มีจุดเด่นหลักคือ ขายออกอย่างรวดเร็ว มีราคาค่อนข้างต่ำ ตัวอย่าง CPG ก็ได้แก่ เครื่องดื่ม อาหาร ของใช้ในห้องน้ำ ยารักษาโรคที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ และของใช้ต่างๆ ที่ใช้แล้วหมดไปได้เร็ว ถ้าพูดกันเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายก็คือ สินค้าที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันนี่แหละครับ

ตัวอย่างบริษัท CPG:

  • Procter & Gamble (P&G): รู้จักกันในแบรนด์ต่างๆ เช่น Tide, Gillette และ Pampers
  • Unilever: มีผลิตภัณฑ์อย่าง Dove, Lipton และ Ben & Jerry's
  • Nestlé: รู้จักกันในแบรนด์ต่างๆ เช่น Nescafé, KitKat และ Gerber
  • Coca-Cola: มีชื่อเสียงในเครื่องดื่มหลากหลายชนิด เช่น Coca-Cola, Sprite และ Fanta โดยรวมแล้ว อุตสาหกรรม CPG มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลก โดยให้สินค้าที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน  

แล้วเทคโนโลยีดิจิทัลมีส่วนช่วยในธุรกิจกลุ่มนี้อย่างไรล่ะ?

เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมรีเทลและสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างมากในปัจจุบันครับ เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการที่บริษัทดำเนินงาน ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และการส่งมอบคุณค่า นี่คือตัวอย่างที่เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังมีผลกระทบต่อธุรกิจนี้

  1. ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า การปรับแต่งส่วนบุคคลด้วย AI และ Machine Learning ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อให้คำแนะนำและข้อเสนอที่ปรับแต่งได้เฉพาะบุคคล ช่วยเพิ่มประสบการณ์การช้อปปิ้ง เพราะในทุกวันนี้การจับจ่ายใช้สอยเริ่มมีความเป็นปัจเจกมากขึ้นแล้วครับ เทคโนโลยีเหล่านี้เลยมีส่วนช่วยให้ทางผู้ค้าสามารถดีไซน์รูปแบบการช้อปปิ้งให้ตอบโจทย์กับลูกค้าแต่ละคนของเขาได้นั่นเองครับ

  2. การวิเคราะห์ข้อมูลและข้อมูลเชิงลึก การวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าโดยใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ขั้นสูงช่วยให้ผู้ค้าปลีกและบริษัท CPG เข้าใจความชอบและรูปแบบการซื้อของลูกค้า ทำให้สามารถวางกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือการวิเคราะห์เชิงพยากรณ์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระดับสินค้าคงคลังและลดการมีสินค้าค้างสต็อกและสินค้าขาดตลาด ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานให้ไหลได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ อีกทั้งการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อหาแนวโน้มตลาดแบบเรียลไทม์ช่วยในการระบุความต้องการของผู้บริโภค ทำให้บริษัทสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ตกเทรนด์

  3. การเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน IoT (Internet of Things) อุปกรณ์ IoT ให้การติดตามผลิตภัณฑ์แบบเรียลไทม์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพิ่มความโปร่งใสและลดการสูญเสีย ซึ่งเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับสายงานโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน เพราะเทคโนโลยีนี้จะมีส่วนช่วยในการลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำในสายงานผลิตนั่นเองครับ

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีอีกมากมาย อาทิ อีคอมเมิร์ซและแพลตฟอร์มดิจิทัล, บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ, เทคนิคการตลาดขั้นสูง และที่เป็นกระแสในช่วงนี้อย่าง แชทบอทผู้ช่วยเสมือนที่พัฒนาจากปัญญาประดิษฐ์และ Machine Learning ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้กับธุรกิจรีเทลได้อย่างดี

นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมรีเทลและ CPG อย่างสิ้นเชิง ด้วยการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ บริษัทสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และคงความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้เชิงกลยุทธ์เป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโอกาสใหม่ๆ และขับเคลื่อนการเติบโตในยุคดิจิทัล

นวัตกรรมที่เทคโนโลยีดิจิทัลได้มอบให้กับธุรกิจนี้

ในส่วนของตัวอย่างนวัตกรรมที่เห็นได้ชัดของ Amazon เลยคือ Amazon Go ครับ

Amazon Go เป็นนวัตกรรมที่ล้ำสมัยในภาคธุรกิจค้าปลีก โดยใช้ "Just Walk Out" เทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงที่ช่วยสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ราบรื่นและสะดวกสบายให้กับลูกค้า ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าไปช้อปปิ้งในหน้าร้าน Amazon Go ได้โดยทำเพียงแค่ สแกนข้อมูลตรงทางเข้า ไปหยิบสินค้าที่ต้องการ และเดินออกไปไม่ต้องชำระเงิน ใช่ครับ เดินออกจากร้านไปดื้อ ๆ เลย แต่เพื่อน ๆ รู้ไหมครับข้อมูลข้างล่างนี้คือเทคโนโลยีดิจิตัลที่อยู่เบื้องหลัง Amazon Go

เทคโนโลยี Just Walk Out

  • การประมวลผลภาพคอมพิวเตอร์: ร้าน Amazon Go ติดตั้งกล้องและเซนเซอร์หลายตัวที่ใช้การประมวลผลภาพคอมพิวเตอร์เพื่อติดตามสินค้าที่ลูกค้าหยิบและวางบนชั้นวาง

  • การผสมผสานข้อมูลจากเซนเซอร์: เทคโนโลยีนี้รวมข้อมูลจากเซนเซอร์หลายตัวเพื่อตรวจจับและบันทึกการเคลื่อนไหวและการกระทำของลูกค้าอย่างแม่นยำ

  • การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning): อัลกอริธึมขั้นสูงวิเคราะห์ข้อมูลจากกล้องและเซนเซอร์เพื่อระบุสินค้าอัตโนมัติที่ลูกค้าหยิบ

  • แอป Amazon Go: ลูกค้าใช้แอป Amazon Go เพื่อเข้าสู่ร้านโดยการสแกน QR code ที่ทางเข้า แอปนี้เชื่อมโยงกับบัญชี Amazon ของลูกค้าเพื่อใช้ในการเรียกเก็บเงิน

  • ไม่มีการรอชำระเงิน: เมื่อลูกค้าเลือกสินค้าและใส่ในถุง เทคโนโลยีจะบันทึกการเลือกสินค้า เมื่อช้อปปิ้งเสร็จ ลูกค้าสามารถออกจากร้านได้ทันที และยอดรวมจะถูกเรียกเก็บจากบัญชี Amazon ของพวกเขาโดยอัตโนมัติ

  • การอัปเดตเรียลไทม์: ลูกค้าจะได้รับการอัปเดตและใบเสร็จในแอปแบบเรียลไทม์ ทำให้มั่นใจและได้รับการยืนยันการซื้อทันที

เพื่อน ๆ คนไหนอยากมองเห็นภาพมากขึ้น สามารถดูวิดีโอได้จากลิงก์นี้เลยครับ Introducing Amazon Go and the world’s most advanced shopping technology

Amazon Go เป็นตัวอย่างที่ดีที่เทคโนโลยีดิจิทัลสามารถปฏิวัติอุตสาหกรรมค้าปลีกได้ โดยการรวมการเทคโนโลยีขั้นสูงไว้ด้วยกัน Amazon ได้สร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแห่งอนาคตที่ไม่ต้องใช้กระบวนการชำระเงินแบบดั้งเดิม นวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าอีกด้วย Amazon Go เป็นการพิสูจน์ถึงศักยภาพของเทคโนโลยีดิจิทัลในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจค้าปลีกและการตั้งมาตรฐานใหม่ในบริการลูกค้าและความเป็นเลิศในการทำธุรกิจได้อย่างดีเลยครับ ผมขอแต่งคำพูดให้เลยว่า “Next Gen Shopping”

ซึ่งด้านบนนี้คือข้อมูลภาพรวมของ session ที่ผมได้เข้าร่วมครับ ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าคุณจัสตินพูดละเอียดกว่านี้มาก ถ้านำมาเขียนหมดน่าจะต้องการกันเป็นวันเลยครับ ฮ่า ๆ แต่เอาเป็นว่าการอัปเดตในครั้งนี้ของ AWS ทำให้เราได้เห็นแล้วครับว่า เทคโนโลยีเริ่มมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ในการใช้ชีวิตของเราให้สะดวกขึ้นจริง ๆ ครับ และถ้าหากในอนาคตอุตสาหกรรมรีเทลในประเทศไทยเรานำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ทั้ง AI, Just Walk Out และอื่น ๆ อีกมากมาย ผมว่าการซื้อของของพวกเราอาจจะรวดเร็ว แปลกใหม่ สนุกและน่าตื่นเต้นมากกว่าเดิมหรือเกินความคาดหมายของเราก็ได้นะครับ

เอาล่ะ! ตอนนี้ใครเริ่มคิดที่อยากเก็บเงินไปลองประสบการณ์ที่ Amazon Go เหมือนกับผมบ้างครับ ฮ่า ๆ (หาเพื่อนร่วมทัวร์และร่วมเที่ยว) ไว้มีโอกาสไปจะรีบมารีวิวให้ฟังนะครับ

สำหรับวันนี้ ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ^-^

この記事をシェアする

facebook logohatena logotwitter logo

© Classmethod, Inc. All rights reserved.