วิธีสร้าง Amazon ElastiCache for Redis

วิธีสร้าง Amazon ElastiCache for Redis

บทความนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้งาน Amazon ElastiCache ซึ่งเป็นบริการ database ที่ใช้ cache เป็นตัวเก็บข้อมูล โดยในครั้งนี้จะทดลองโดยใช้ Redis ซึ่งเป็น NoSQL เป็น engine ให้กับ Amazon ElastiCache

สิ่งที่ต้องมี

EC2

สร้าง EC2 โดยดูวิธีการสร้างตามบทความด้านล่าง

https://dev.classmethod.jp/articles/how-to-install-amazon-linux-on-ec2/

Security Group

สร้าง security group สำหรับ ElastiCache for Redis โดยในบริการ EC2
เลือกหัวข้อ Security Groups ตามด้วยคลิกที่ “Create security group”

Elasticache transfer-29

ตั้งชื่อ security group ตามที่ต้องการ จากนั้นคลิก “Add rule” และตั้งค่าตามรูปด้านล่าง
โดยในส่วนของช่องถัดจาก Source ให้เลือกเป็น security group ของ EC2
จากนั้นคลิกที่ “Create security group”

Elasticache transfer-30

Subnet Groups

ขั้นตอนนี้คือการสร้าง Subnet Group เพื่อให้ database อยู่ที่ VPC และ AZ ที่เราต้องการ

เข้ามาที่ Amazon ElastiCache และไปที่หัวข้อ Subnet groups
จากนั้นคลิก “Create subnet group”

Elasticache transfer-31

ตั้งชื่อ Subnet Groups และเลือก VPC ตามที่ต้องการ
ในส่วนของ subnets ให้คลิกที่ “Manage” และเลือก AZ ที่เราต้องการ
เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยให้คลิก “Create”

Elasticache transfer-32

1. สร้าง Amazon ElastiCache for Redis

เข้ามาที่คอนโซลของ Amazon ElastiCache โดยเลือกแถบด้านข้างเป็น Redis OSS caches
จากนั้นคลิกที่ “Create Redis OSS cache”

Elasticache transfer-1

สำหรับการตั้งค่าในบทความนี้ จะตั้งค่าแบบตามรูปด้านล่าง

Elasticache transfer-2

ที่หัวข้อ Name สามารถตั้งชื่อ database ได้ตามที่ต้องการ
เนื่องจากเป็นการทดลองการใช้งาน จึงติ๊ก Multi AZ และ Auto-failover ออก

Elasticache transfer-3

ที่หัวข้อ Node type ในบทความนี้จะเลือกเป็น cache.t4g.micro และจำนวน replica เป็น 0

Elasticache transfer-4

ในส่วนของหัวข้อ Subnet groups เลือก Subnet groups ที่เราสร้าง จากนั้นคลิก “Next”

Elasticache transfer-5

คลิกที่ “Manage” เพื่อเลือก security group ของ database ที่เราสร้างไป และติ๊ก “Enable automatic backups” ออก
จากนั้นคลิก “Next” และตามด้วย “Create”

Elasticache transfer-6

เมื่อสร้างเสร็จแล้ว เราจะถูกพามาที่ Redis OSS caches
รอจน Status เปลี่ยนเป็น Available แล้วจึงคลิกไปที่ database ที่เราสร้าง

Elasticache transfer-7

ทำการคัดลอก endpoint เพื่อใช้สำหรับเชื่อมต่อ EC2 ในขั้นตอนถัดไป

Elasticache transfer-8

2. ทดลองเชื่อมต่อกับ EC2

เชื่อมต่อกับ EC2 ด้วย SSH
จากนั้นใช้คำสั่งนี้เพื่อติดตั้งคำสั่งของ Redis (สำหรับ Amazon Linux 2023)

sudo yum install redis6 -y

ใช้คำสั่งนี้เพื่อเชื่อมต่อไปยัง Amazon ElastiCache ก็จะได้ผลลัพธ์ตามรูปด้านล่าง

redis6-cli -h [Entpoint ที่เราทำการคัดลอกไว้] -p 6379

Elasticache transfer-9

เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว เราจะลองทำการเพิ่มข้อมูลเข้าไป

Elasticache transfer-10

เพียงเท่านี้การใช้งาน Amazon ElastiCache ผ่าน EC2 ก็เสร็จเรียบร้อย

สำหรับ EC2 ที่ไม่ได้ใช้ OS เป็น Amazon Linux 2023
สามารถดูคำสั่งเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้
https://repost.aws/knowledge-center/elasticache-connection-test

สรุป

หากใครที่ต้องการจะใช้บริการ database ที่เป็นแบบ cache ซึ่งสามารถดึงข้อมูลมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว
Amazon ElastiCache for Redis ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับความต้องการนี้อย่างแน่นอน

บทความอ้างอิง

Share this article

facebook logohatena logotwitter logo

© Classmethod, Inc. All rights reserved.