
AWS Summit Bangkok 2025: แนวทางการย้ายระบบสู่ AWS Thailand Region
สงสัยกันไหมว่า Thailand region ต่างกับ Region อื่นอย่างไร มี Service อะไรบ้าง อยาก Migrate ต้องทำอย่างไร
ในบทความนี้จะมาสรุป Service ที่ใช้งานได้ใน Thailand region วิธีการ Migration และตัวอย่าง Use case การย้าย Region ของ J Ventures
AWS Thailand region (ap-southeast-7) เปิดให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 โดยถูกสร้างขึ้นบนมาตรฐานเดียวกับ Region อื่นๆทั่วโลก ซึ่งจะมีอย่างน้อย 3 Availability Zone (AZ) ที่ทำงานแยกจากกันอย่างสิ้นเชิง ป้องกันการล้มเหลวของระบบใดระบบหนึ่ง โดยแต่ละ Availability Zone (AZ) จะเชื่อมต่อกับแบบ Low latency หรือความแฝงต่ำ ทำให้รับ-ส่งข้อมูลได้รวดเร็ว รวมถึงผู้ใช้สามารถดีไซน์ Architecture ของระบบให้ตอบโจทย์ของระบบแต่ละองค์กรได้ง่ายๆ
Key Benefit of AWS Thailand Region
GLOBAL FOOTPRINT
ด้วยมาตรฐานเดียวกันกับ Region อื่นๆ ลูกค้าที่เก็บข้อมูลใน Thailand Region มั่นใจได้เลยว่าข้อมูลจะไม่ออกนอกประเทศไทย
SECURITY
โครงสร้างพื้นฐานหลักของ AWS ถูกสร้างเพื่อตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยสำหรับหน่วยงานทางทหาร ธนาคารระดับโลก และองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยสูง
PERFORMANCE
โครงสร้างพื้นฐานของ AWS ถูกสร้างเพื่อมอบประสิทธิภาพที่ดี มีความหน่วงต่ำ การสูญเสีย Packet (หน่วยข้อมูลย่อยที่ส่งผ่านเครือข่าย) ต่ำ และมีคุณภาพเครือข่ายโดยรวมสูงสุด
INNOVATION
AWS พัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้เปลี่ยนแปลงธุรกิจได้ไกลกว่าเดิม
ตรวจสอบ Service ที่ใช้ได้ใน Thailand Region อย่างไร?
Service ยอดนิยมอย่าง Amazon Elastic Compute Cloud (EC2), Amazon Elastic Block Store (EBS), Amazon CloudFront, Amazon CloudWatch, AWS Backup, AWS Lambda และอื่นๆ อีกมากมาย มีให้ใช้ได้แล้วบน Thailand Region โดยใครอยากติดตามดูอัปเดต หรือดู Service ทั้งหมดที่ใช้ได้บน Thailand Region ก็สามารถเข้าไปเช็คได้ที่ AWS Services by Region ได้เลยนะคะ แม้ว่าในตอนนี้ Service บางตัวอาจจะยังใช้งานไม่ได้บน Thailand Region แต่อนาคตคาดว่า AWS จะทยอยนำมาให้ใช้งานครบอย่างแน่นอนค่ะ
แนวทางการ Migration
Assess (การประเมิน)
ตรวจสอบสภาพปัจจุบันก่อนตัดสินใจย้ายระบบ ดูว่าองค์กรมีอะไรอยู่บ้าง คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด วางแผนเบื้องต้น และหาเหตุผลว่าทำไมควรเปลี่ยนแปลงระบบ
Mobilize (การเตรียมความพร้อม)
- Portfolio: จัดลำดับความสำคัญว่าจะย้ายอะไรก่อนหลัง วางแผนรายละเอียด และเตรียมการย้าย
- People: เตรียมบุคลากรให้พร้อมทั้งทักษะ วัฒนธรรมการทำงาน และวิธีรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
- Platform: เตรียมสภาพแวดล้อมใหม่ที่จะย้ายไป กำหนดวิธีบริหารจัดการ และดูแลเรื่องความปลอดภัย
Migrate and modernize (การย้ายและปรับปรุง)
มี 3 ขั้นตอนสำคัญด้วยกัน
- ย้ายระบบไปยังแพลตฟอร์มใหม่จริงๆ
- ปรับปรุงวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
- พัฒนาระบบให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีใหม่
ข้อควรพิจารณาสำคัญ: การย้าย Workload ระหว่าง AWS Regions
การย้าย Workload ระหว่าง Regions จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยสำคัญดังนี้:
การวางแผนและเตรียมการ
- สร้างแผนธุรกิจที่ชัดเจน คำนึงถึงต้นทุนโดยรวม ทั้งค่าบริการใน Regions ใหม่และค่าใช้จ่ายในการย้าย
- ตรวจสอบความเข้ากันได้ของบริการที่ใช้ในปัจจุบัน และกฎระเบียบ หรือข้อปฏิบัติใน Regions ที่ต้องการย้าย
โครงสร้างเครือข่ายที่แนะนำ
- เลือกใช้ VPC Peering - สำหรับการเชื่อมต่อที่ต้องการ bandwidth สูงหรือความหน่วงต่ำ คล้ายการเชื่อมต่อตรงระหว่างเครือข่าย เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความเร็วสูงสุดในการรับส่งข้อมูล
- AWS Transit Gateway - ทำหน้าที่เหมือนศูนย์กลางเชื่อมต่อเครือข่าย ช่วยให้จัดการการเชื่อมต่อระหว่างหลาย VPC ได้ง่ายขึ้น เหมาะกับองค์กรที่มีโครงสร้างเครือข่ายซับซ้อน
- AWS Direct Connect - เชื่อมต่อโดยตรงระหว่างศูนย์ข้อมูลขององค์กรกับ AWS ช่วยเพิ่มความเสถียรและความปลอดภัย โดยในประเทศไทยมีให้บริการที่ TCC Data Center และ True IDC Bangkok
การย้ายฐานข้อมูล
- AWS Database Migration Service (DMS) ช่วยอำนวยความสะดวกตั้งแต่การประเมิน แปลงโครงสร้าง จนถึงการย้ายข้อมูล
- Amazon RDS Read Replicas และ Aurora Global Database รองรับการทำงานข้าม Region ด้วยการจำลองข้อมูลแบบ Asynchronous
เครื่องมือสนับสนุน
ใช้บริการจากผู้ให้บริการ Software อิสระ (ISV) เพื่อช่วยประเมินความพร้อมของระบบปัจจุบัน ทำให้การย้ายระบบราบรื่น และจัดการโซลูชันหลังการย้ายได้ง่ายๆ
การเลือกวิธีการย้ายระบบที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยง ประหยัดเวลา และทำให้การย้ายไปยัง Region ใหม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
Use case การย้ายระบบไปยัง AWS Thailand Region จาก J Ventures
J Ventures นำเสนอกรณีศึกษาการย้ายระบบ Multi-factor Authentication Service ไปยัง AWS Thailand Region ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 1.5 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ใช้เวลาขั้นตอนละ 30 นาที:
- การเตรียมความพร้อมและความปลอดภัย (30 นาที)
เข้ารหัสและสำรองข้อมูลเพื่อป้องกันการสูญหาย - การปรับใช้งาน (30 นาที)
ย้ายระบบเป็นระยะๆ โดยใช้เครื่องมือของ AWS เพื่อลด Downtime ของระบบให้น้อยที่สุด - การตรวจสอบและปรับแต่งหลังการย้าย (30 นาที)
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้อย่างราบรื่นหลังการย้าย
กระบวนการย้ายระบบของ J Ventures มีการวางแผนอย่างละเอียด แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการย้ายระบบจาก Region หนึ่งไปยังอีก Region หนึ่งที่ชัดเจน ทำให้การย้ายระบบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและใช้เวลาน้อย
AWS ได้ออกแบบระบบและพัฒนาเครื่องมือที่หลากหลายเพื่อรองรับการย้ายระบบระหว่าง Region ให้มีประสิทธิภาพ ง่ายต่อการดำเนินการ และใช้เวลาน้อย ไม่ว่าจะเป็นโซลูชันด้านเครือข่ายอย่าง VPC Peering, Transit Gateway และ Direct Connect หรือบริการด้านฐานข้อมูลอย่าง RDS Read Replicas และ Aurora Global Database รวมถึงเครื่องมือย้ายระบบอย่าง AWS Database Migration Service ทั้งหมดนี้ช่วยให้องค์กรสามารถย้ายระบบไปยัง AWS Thailand Region ได้อย่างราบรื่น ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง