Bangkok Bank กับเทคโนโลยี Observability ที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาแอปพลิเคชันให้ดีกว่าที่เป็น ด้วย New Relic-AWS Summit Bangkok 2024
วันนี้แพรจะมาแบ่งปันเรื่องราวที่ได้จากการเข้าร่วม Session “Bangkok Bank: Adopting observability for digital channels” จากงาน AWS Summit Bangkok 2024 ว่าธนาคารกรุงเทพนำ Observability for digital channels มาใช้ในการพัฒนา Customer Experience หรือสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในการใช้ Mobile Banking ได้อย่างไร
Mobile Banking ตัวใหม่ของธนาคารกรุงเทพ ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าธนาคารกรุงเทพนั้นกำลังจะเปลี่ยนไป
ทางธนาคารกรุงเทพได้เริ่มพัฒนา Native แอปพลิเคชันตัวใหม่ในปี 2019 โดยใช้หลักการ Agile methodology และใช้ Net framework ด้วย C# ในการพัฒนาแพลตฟอร์มไซต์ ระยะเวลากว่า 1 ปีหลังจากการพัฒนา ทางธนาคารก็ได้ปล่อยแอปพลิเคชันเวอร์ชันแรกให้ได้ใช้กันในเดือน พฤษภาคม ปี 2020 โดยในปัจจุบันมีลูกค้ามากถึง 13 ล้านคนเลยทีเดียว
การเดินทางของโปรเจค Observability Journey
ในแอปพลิเคชันเวอร์ชันเก่า สามารถตรวจสอบได้เพียงแค่ข้อมูลพื้นฐาน เช่น CPU, Memory Usage และมีเพียงแค่ทีม Operation ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลในส่วนนี้ได้ แต่ในความจริงแล้ว ทางธนาคารอยากสามารถเข้าไปตรวจสอบประสิทธิภาพระดับแอปพลิเคชัน และอยากให้สมาชิกในทีมโปรเจค และคนอื่นๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลได้เช่นกัน และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นในการมองหาโซลูชันที่จะเข้ามาช่วยในส่วนนี้ โดยการเลือกใช้บริการ New Relic
อุปสรรคทีเจอระหว่างพัฒนาแอปพลิเคชัน
- พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนไป
- ข้อมูล Overload
- ต้องการความสามารถหลายอย่าง ในเวลาที่จำกัด
ประโยชน์ของ New Relic
- ช่วยประหยัดเวลาในการสร้าง Dashboard
- วางแผนกำลังการผลิต
- ป้องกันการฉ้อโกง
- เฝ้าสังเกตการเชื่อมต่อจากภายนอก
- ช่วยแก้ไขปัญหาการกระจายตัวของทีม
ภายหลังจากการพัฒนา ทีมงานสามารถวิเคราห์ข้อมูล รวมถึงนำข้อมูลมาใช้ได้ง่าย และสะดวกมากขึ้น อีกทั้งข้อมูลยังมีความแม่นยำ และช่วยให้ทีมประหยัดเวลาไปได้มากทีเดียว