บทความนี้ได้รับการแปลมาจากบทความภาษาญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า [アップデート] Amazon Lightsail インスタンスのネットワークタイプで「IPv6 のみ」が追加され、2024 年 5 月からの料金値上げについても発表されました โดยเจ้าของบทความนี้คือ คุณ iwasa ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น และในบทความนี้จะมีการปรับสำนวนการเขียน รวมถึงมีการเรียบเรียงเนื้อหาใหม่ให้เข้าใจง่ายและมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลทั้งหมดในบทความนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่เผยแพร่บทความ (28/6/2024)
สวัสดีทุกท่านครับ
ตอนนี้ AWS ก็ได้เริ่มคิดค่าบริการการใช้งาน IPv4 เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
ซึ่งจะทำให้ AWS resource รวมถึง AWS service ต่าง ๆ ถูกคิดค่าใช้จ่ายในส่วนของ IPv4 โดยที่ Amazon Lightsail ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยครับ แต่วิธีการคิดค่าบริการในส่วนของ IPv4 ของ Lightsail จะแตกต่างออกไปนิดหน่อยเนื่องจาก Lightsail จะคิดค่าบริการเป็นแบบ package รายเดือน ซึ่งค่าบริการ IPv4 ก็จะถูกรวมอยู่ในราคา package ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วน IPv4 ที่ถูกสร้างเพิ่มเติมขึ้นมานอกเหนือจากที่มีให้ใน package นั้นจะถูกคิดค่าบริการก็ต่อเมื่อ IPv4 นั้นไม่ได้ถูกนำไปติดให้กับ Lightsail instance ตัวไหนเลยนานกว่า 1 ชั่วโมงขึ้นไปครับ ซึ่งอัตราค่าบริการจะอยู่ที่ $0.005 USD/hour/IP [1][2]
ที่จริงแล้ว Amazon Lightsail ก็มี network type ที่รองรับ IPv6 มาตั้งแต่ก่อนหน้าแล้ว แต่จะเป็นแบบ dual-stack ที่รองรับทั้ง IPv4 และ IPv6 ครับ
แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็ได้มีข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับเรื่องนี้ปล่อยออกมาครับ
ซึ่งอัปเดตที่ว่านั่นถูกปล่อยออกมาผ่านประกาศด้านล่างนี้
Amazon Lightsail รองรับการสร้าง instance ที่มี network type แบบ IPv6-only แล้วครับ
แล้วก็ยังมีอัปเดตอีกอย่าง คือเรื่องของการปรับขึ้นค่าบริการของ Lightsail
แต่ในบทความนี้จะมาแนะนำรายละเอียดของ network type แบบ IPv6-only และข้อมูลเกี่ยวกับค่าบริการครับ
Network Type [IPv6-only]
ก่อนอื่นเราจะลองไปสร้าง instance ตามปกติดู
หลังจากเลือก instance plan แล้วก็จะพบว่าเราสามารถเลือก network type ได้แล้ว
ในส่วนนี้เรามีตัวเลือกระหว่าง [Dual-stack] กับ [IPv6-only] ครับ
network type แบบ Dual-stack คือ network type ที่มีมาตั้งแต่ก่อนหน้า ที่จะทำการมอบทั้ง IPv4 และ IPv6 ให้กับ instance ครับ โดยราคาตอนนี้อยู่ที่ $5 ครับ
ส่วน network type แบบ IPv6-only ก็ตามชื่อ คือจะไม่มีการมอบ IPv4 ให้กับ instance ครับ
ซึ่ง ณ ปัจจุบันยังมี feature บางส่วนที่ไม่รองรับการใช้งานกับ network type แบบ IPv6-only ทำให้การจะย้ายมาใช้งาน network type นี้เป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักอยู่พอสมควร แต่ก็คาดว่าจะมีการเพิ่ม feature เหล่านี้เข้ามาในเร็ว ๆ นี้ครับ
ส่วนเรื่องของค่าบริการ จะถูกกว่าแบบ Dual-stack ซึ่งอยู่ที่ $3.5 ครับ
จุดที่ต้องระวังก็คือ ไม่ใช่ว่าทุก blueprint จะรองรับการใช้งาน IPv6-only ครับ
ตัวอย่างเช่น WordPress ที่เป็น blueprint ยอดนิยมสำหรับผู้ใช้งาน Lightsail จะไม่สามารถใช้งาน network type แบบ IPv6-only ได้
โดย blueprint ที่รองรับ IPv6-only สามารถตรวจสอบได้ผ่าน official document ด้านล่างนี้ครับ
ทดลองสร้าง instance แบบ IPv6-only
พอลองสร้าง instance ดูแล้วก็จะพบว่า instance ตัวดังกล่าวไม่มี public IPv4 ครับ
แต่ยังมี private IPv4 อยู่
แล้วก็ ณ ปัจจุบันยังไม่สามารถใช้งานฟังก์ชัน Browser-based SSH ได้ครับ
หลังจากที่เลือก network type เป็นแบบ IPv6-only ไปแล้ว จะไม่สามารถสลับไปเป็นแบบ Dual-stack ได้
การเปลี่ยน network type จะใช้วิธีเดียวกับการเปลี่ยน instance type ก็คือให้สร้าง instance ตัวใหม่ขึ้นมาจาก snapshot ของ instance ตัวเก่า แล้วเปลี่ยน network type ในขณะสร้างครับ
การปรับขึ้นค่าบริการของ Dual-stack
ครั้งนี้ สิ่งที่มาพร้อมกับ network type แบบใหม่ [IPv6-only] ก็คือเรื่องของการปรับขึ้นค่าบริการครับ
ในหน้าแสดงค่าใช้จ่ายของ Lightsail จากทาง official ได้แสดงตารางค่าบริการของ IPv4 และ IPv6 ไว้แยกกัน และราคาก็แตกต่างกันด้วยครับ
โดยค่าใช้จ่ายที่ถูกปรับใหม่นี้จะมีผลตั้งแต่ 2024/5/1 เป็นต้นไป อ้างอิงจากบทความด้านล่างนี้
Revised prices for bundles that include a public IPv4 address will be effective on all new and existing Lightsail bundles starting May 1, 2024.
โดยหลังจากวันที่ 2024/5/1 ค่าบริการของ IPv6-only จะยังคงเดิม ส่วนค่าบริการของ Dual-stack จะถูกปรับครับ
ตัวอย่างเช่น ค่าบริการของ Linux 0.5GB จะถูกปรับจาก $3.50 เป็น $5.00 ส่วนเรื่องที่ว่าจะยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อใช้ IPv4 ต่อไป หรือจะย้ายไปใช้งาน IPv6 แทนนั้น ทุก ๆ ท่านก็ลองตัดสินใจกันดูนะครับ
สุดท้ายนี้
วันนี้ผมได้มาทดลองสร้าง Amazon Lightsail instance ด้วย network type แบบ IPv6 ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ครับ
แล้วก็ได้พูดถึงเรื่องของการปรับขึ้นค่าบริการที่จะเกิดขึ้นหลังจาก 2024/5 เป็นต้นไปด้วย
ส่วนเรื่องการปรับวิธีการคิดค่าบริการของ IPv4 นั้นผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงบ่อยจนเริ่มจะชินไปซะแล้วครับ ณ ปัจจุบันหากย้ายไปใช้ IPv6-only ก็จะทำให้มีฟังก์ชันบางส่วนที่ไม่สามารถใช้ได้ขึ้นมา ในส่วนนี้ถ้าแก้ไขได้ในเร็ววันก็คงจะดีนะครับ
3
